ทริปแนะนำ
ชมซากุระบาน ณ เซนได
กลับมาตามคำเรียกร้องสำหรับทริปเที่ยวญี่ปุ่นที่แตกต่าง ในปีนี้จะขอพาท่านไปยังจังหวัดมิยางิ ซึ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น คือ“เมืองเซ็นได” เมืองเซ็นไดถือเป็นเมืองใหญ่ที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น และได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งต้นไม้ จึงมีความร่มรื่นสวยงามยิ่งเมื่อยามต้นเดือนเมษา ดอกซากุระจะบานสะพรั่งไปทั่วเมือง ทำให้เมืองเซนไดมีเสน่ห์น่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง ซึ่งเราจะพาท่านไปชม ทั้งปราสาท สวนสวย และยังจะพานั่งเรือชมอ่าวะมัตซึชิมะ ที่มีธรรมชาติแสนสวยเมื่อเรือแล่นไป ฝูงนกนางนวลจะบินตามเรือออกไปเพื่อรอรับขนมที่นักท่องเที่ยวหยิบยื่นให้ ช่างเป็นภาพที่แสนสวยจริง ๆ และที่อ่าวมัตซิชิมานี้ ถือว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติงดงามมาก ติดอันดับหนึ่งในสามของประเทศเลยทีเดียว และแน่นอนว่าเราต้องจัดให้ท่านได้นอนในโรงแรมแบบเรียวกัง ซึ่งเป็นโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น มีน้ำแร่ให้อาบ มีชุดยูกาตะให้ใส่เดินเล่นในโรงแรมค่ะ สนุกดี เมื่อไปญี่ปุ่นแน่นอนต้องไปเยี่ยมชมวัด วัดที่จะพาไปนี้เป็นวัดเก่าแก่มีอายุราว 800 ปี เป็นวัดที่มีธรรมชาติงดงาม และเราจะได้พบกับต้นสนที่มีอายุกว่า 500 ปี เรียงรายอยู่สองข้างทาง และยังจะพาท่านไปชมสวนดอกไม้หมื่นดอกที่จัดไว้อย่างสวยงาม เป็นสวนดอกไม้ในร่ม สวนนี้คู่บ่าวสาวชาวญี่ปุ่นต้องมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกค่ะ เท่านี้ยังไม่พอค่ะ เราขอพาท่านขึ้นรถไฟหัวกระสุน“ชิงกังเซน” ซึ่งมีความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อมาที่เมืองเอโดะมูระ เมืองที่สร้างขึ้นเพื่อให้เยาวชนญี่ปุ่นได้เรียนรู้สภาพชีวิตความเป็นอยู่สมัยเอโดะ หรือ ยุคซามูไร ท่านจะเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในบรรยากาศของเมืองโบราณ ชมการแสดง และเดินเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมีความสุข เพื่อให้คุ้มค่ากับเวลา และค่าใช้จ่ายของท่าน เรายังขอพาท่านไปเมืองมรดกโลก “นิกโก้” พาชมวิหารโทโชกุ ซึ่งเป็นวิหารที่มีประวัติน่าสนใจรวมทั้งความสวยงามในด้านสถาปัตยกรรม ฟังเรื่องราวที่น่าสนใจของช่างแกะสลัก “ฮิดาริ” ที่แกะสลักด้วยมือซ้ายข้างเดียว จากนั้นพาชมน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ท่านไม่ต้องเหนื่อยเดินนะคะ เพราะมีลิฟต์ส่งถึงน้ำตกเลยค่ะ ก่อนกลับบ้านเราไม่ลืมที่จะให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการซื้อของในเมืองโตเกียว เราจะพาท่านไปไหว้พระที่วัดอาซากุซะ ณ ที่นี้ท่านสามารถเดินเลือกซื้อของที่ระลึกแบบญี่ปุ่น รวมทั้งขนมของญี่ปุ่นได้อย่างจุใจทีเดียว ส่วนที่ช้อปปิ้ง ทันสมัยก็ต้องพาไปอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องกังวล เรียกว่าไปเที่ยวคราวนี้ได้ครบทุกรสค่ะ ราคาแพงหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มค่าค่ะ … ไปด้วยกันนะคะ เวลาที่เหมาะสมกับการเดินทางคือ เดือนเมษายน
—————————————————————————————— สัมผัสทุ่งดอกไม้ และสายลมเย็น ที่ฮอกไกโด
เมื่อพูดถึงเกาะฮอกไกโด อันเป็นเกาะใหญ่ที่อยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่เราจะนึกถึงได้ คือ งานเทศกาลสลักน้ำแข็งที่เมืองซับโปโร ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี แต่ฮอกไกโดมีเสน่ห์มากกว่านั้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฮอกไกโดจะสวยงามไปด้วยทุ่งดอกไม้ ต่างสีสัน ต่างพันธุ์ และละลานตาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน ถึงกรกฏาคม นั้น ภูเขาทั้งลูกจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงของดอกลาเวนเดอร์ และยังแต่งแต้มด้วยสีสันของดอกทิวลิป ดอกกุหลาบนานาชนิด มอสพิงค์ ลิลลี่ เป็นต้น ตลอดเส้นทางที่รถผ่านไปตามหุบเขาต่าง ๆ ช่างเหมือนหลงเข้าไปอยู่ในภาพวาดของทิวทัศน์ที่แสนงดงาม ทั้งน้ำตก และภูเขา พร้อมด้วยสายลมเย็นบาง ๆ โชยมาให้สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก แถมด้วยความสวยงามของหิมะที่หาชมได้ในพิพิธภัณฑ์เกล็ดหิมะ และแม้เราจะไม่ได้ไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์อันแสนหนาวเย็น เราสามารถท่องไปใน “โลกน้ำแข็ง” ที่สร้างไว้ให้ชมได้ทั้งปี และ แน่นอนเราคงต้องไปผ่อนคลาย ลดความปวดเมื่อยด้วยการแช่น้ำแร่ร้อน ๆ ที่พักแสนสบาย ไม่เพียงแต่ทิวทัศน์ สายลม และทุ่งดอกไม้แล้ว เรื่องอาหารบนเกาะฮอกไกโดก็โดดเด่นไม่แพ้ในเกาะใหญ่ ทั้งขาปูยักษ์ และราเมนแสนอร่อย แต่ที่แน่ ๆ คือ เมื่อไปญี่ปุ่นแล้ว การซื้อของเป็นเรื่องที่ต้องกระทำ เราได้จัดให้ท่านได้มีเวลาเดินเล่นที่เมืองโอตารุ และให้เวลาที่เมืองโตเกียวก่อนกลับบ้านอีกด้วย ทริปนี้เป็นทริปที่แสนสวย และผ่อนคลายจากความเครียดจริง ๆ ค่ะ…. ไปกันเลย ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางคือ เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม
|